ทำธุรกิจยุคนี้ รอให้พร้อม หรือเริ่มก่อน แบบไหนดีกว่ากัน?
การเริ่มต้นธุรกิจในมุมมองของคนส่วนใหญ่ มักมองว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดสินใจ ต้องใช้เวลาครุ่นคิด และไตร่ตรอง บางคนก็รอเพื่อให้ได้เจอกับโอกาสที่ดีที่สุด บางคนก็รอให้ตัวเองพร้อมที่สุดถึงจะเริ่ม
แน่นอนว่า การเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดเป็นเรื่องที่ดี แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งการรอให้พร้อมอย่างไม่มีเป้าหมาย อาจจะกลายเป็น ‘กับดัก’ ที่ทำให้คุณไม่ได้เริ่ม และเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์
เพราะการทำธุรกิจไม่ได้มีสูตรกำหนดตายตัว ว่าต้องเริ่มจากจุดที่พร้อมแล้วเท่านั้น สำหรับบางคนที่มาถึงจุดที่จะต้องเริ่มในวันที่ไม่พร้อม การเริ่มจึงเป็นทางเลือกเดียวที่มี เหมือนกับทางเลือกของคุณ ‘สุปราณี อาริยะเครือ’ อดีตพนักงานบริษัทที่มีความฝันอยากเริ่มธุรกิจของตัวเอง แต่ก็อยากให้ตัวเองพร้อมที่สุดก่อน จนมีเหตุการณ์ที่แม่ของเธอป่วย ทำให้เธอตัดสินใจลาออก มาทำธุรกิจที่บ้านเกิดของตัวเอง เพื่อที่จะได้ดูแลแม่อย่างใกล้ชิด ในวันที่ไม่พร้อมด้วยซ้ำ
ความพร้อมคืออะไร เมื่อไหร่ถึงจะเรียกว่าพร้อม?
“คนทำงานบริษัทส่วนใหญ่ต้องเคยคิดแหละว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่จะกลับไปทำธุรกิจที่บ้านเกิด จะได้ดูแลพ่อแม่อย่างใกล้ชิด แต่พอดีแม่พี่มาป่วยซะก่อน”
หลังจากที่แม่ป่วย คุณสุปราณีที่ไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวให้พร้อมมากนัก จึงตัดสินใจลาออกจากบริษัท เพื่อกลับมาดูแลแม่ที่บ้านเกิดอย่างใกล้ชิด โดยตัดสินใจเช่าตึกบนทำเลหนึ่ง เพื่อเริ่มธุรกิจขายเฟอร์นิเจอร์
“จะพร้อมไหมไม่รู้ แต่พี่ตัดสินใจกลับมาดูแม่ที่บ้านเกิด แล้วก็คิดว่าต้องหารายได้ให้ได้ด้วย โดยเริ่มจากการเช่าห้องแถวทำร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ก็ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง”
มองเห็นโอกาส จากสิ่งที่ได้เริ่มไว้
หลังจากคุณสุปราณีเริ่มธุรกิจขายเฟอร์นิเจอร์ไปได้ช่วงหนึ่ง ก็พบว่ายังไม่ใช่ธุรกิจที่จะช่วยตอบโจทย์ให้การสร้างรายได้ของเธอ เพราะสินค้าประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนจะมาหาซื้อกันทุกวัน
จากปัญหาที่เกิดจึงทำให้คุณสุปราณีได้เรียนรู้ และมองเห็นโอกาสที่จะพลิกวิกฤตที่เกิดขึ้นให้เปลี่ยนเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ จากทำเลที่เธอได้เริ่มทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เอาไว้
“พอดีว่าร้านเฟอร์นิเจอร์พี่อยู่ใกล้ตลาด เราก็เห็นคนที่มาตลาดซื้อของกินกันทุกวัน ก็เลยเห็นเป็นโอกาสว่าทำเลพื้นที่หน้าร้านน่าจะขายของกิน จะได้มีรายได้เพิ่มอีกทาง”
เมื่อมองเห็นช่องทางในการพลิกวิกฤต คุณสุปราณีจึงรีบคว้าโอกาสนั้นเอาไว้ในทันที โดยได้ติดต่อกับแบรนด์ Five Star เพื่อเริ่มต้นธุรกิจบนทำเลหน้าร้านเฟอร์นิเจอร์ของเธอเอง
“ก็ติดต่อกับทางห้าดาวเพื่อที่จะเปิดขายที่หน้าร้านของตัวเอง ด้วยเงินทุนเริ่มต้นประมาณ 5 หมื่นบาท เราเริ่มขายตั้งแต่เป็นซุ้มรถเข็นไก่ย่างห้าดาว ขายดีตั้งแต่เริ่ม รายได้ดีขึ้นเกินกว่าที่คาดไว้”
วันที่พร้อมที่สุด คือวันที่ได้เริ่ม
จากคนที่เคยมีความคิดว่าควรจะเริ่มตอนที่พร้อมที่สุด สถานการณ์ได้สร้างเงื่อนไขทำให้เธอต้องเริ่มในทันที แม้ยังไม่พร้อม และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณสุราณีได้เจอโอกาส และช่องทางในการต่อยอดให้ไปได้ไกลขึ้นเร็วกว่าเดิม
“จากขายเฟอร์นิเจอร์ ก็เปลี่ยนมาขายห้าดาวเป็นหลักเลย แล้วพี่ก็ย้ายทำเลมาขายแถวหน้า ม.สวนดุสิตลำปาง ในรูปแบบซุ้มเหมือนเดิม ทางบริษัทก็เข้ามาถามว่า สนใจจะขยายเป็นแบบร้านอาหารเลยไหม พี่ก็ตัดสินใจทำเป็นร้าน Five Star เลย ลูกค้าจะได้นั่งกินที่ร้านได้ด้วย ถ้านับจากวันแรกที่เริ่มกับห้าดาว ก็ขายมาแล้ว 13 ปี คืออยู่ได้เติบโตได้ เราก็พอใจแล้วนะ”
การเริ่มก่อนส่งผลให้มีเวลาให้ได้เรียนรู้ ศึกษา เห็นปัญหา และต่อยอดให้ประสบความสำเร็จได้ก่อน เหมือนกับคุณสุปราณีที่ไม่ได้เริ่มทำธุรกิจตอนที่ตัวเองพร้อมที่สุด แต่พร้อมที่สุดหลังจากที่ได้เริ่มลงมือไปแล้วนั่นเอง
“วันนั้นที่เริ่มทำธุรกิจจะว่าพร้อมรึเปล่าพี่ไม่รู้นะแต่พี่ต้องทำ แต่วันนี้ก็รู้แล้วว่า วันที่พร้อมที่สุดก็คือวันที่เราได้เริ่มทำนั่นแหละ”
“ปัจจุบันรายได้จากร้าน Five Star ก็ทำให้พี่สามารถดูแลพ่อ ซื้อบ้าน ซื้อรถ และส่งลูกเรียนจนจบมหาวิทยาลัยได้ และพี่ยังมีความภูมิใจว่าวันนั้นได้กลับมาดูแม่ แล้วก็สามารถเลี้ยงดูทั้งครอบครัวให้สบายจากธุรกิจที่เราเริ่มทำมาในวันนั้น”
ค้นหาแรงบันดาลใจ และความรู้ในการทำธุรกิจจากบทเรียนอื่น ๆ ได้ที่ www.fivestar-class.com หรือแอดไลน์ @FiveStarClass ได้เลย